โรคหูดหงอนไก่ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย ควรป้องกันก่อนเกิดขึ้น เพราะมักกระทบทางด้านจิตใจและสังคมสูง และใช้เวลารักษายาวนาน
โรคหูดหงอนไก่ คืออะไร
ข้อมูลจาก ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุว่า หูดหงอนไก่ หมายถึงหูดที่อวัยวะเพศหรือทวารหนัก ซึ่งเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย เกิดจากการติดเชื้อ Human papillomavirus (HPV) ที่ผิวหนัง
โรคหูดหงอนไก่ ติดต่อกันได้อย่างไร
เพราะผู้ป่วยหญิงจะมีรอยโรคมากกว่าผู้ป่วยชายถึง 5 เท่า จึงทำให้ผู้ชายที่ติดเชื้อแต่อาการแสดงน้อยหรือไม่มีอาการ แพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้มาก โดยโรคหูดหงอนไก่
สามารถติดต่อกันได้ผ่านทาง
- สัมผัสโดยตรง โดยการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่สำคัญที่สุด
- ใช้สิ่งของร่วมกันที่สัมผัสกับบริเวณอวัยวะเพศ
อาการของโรคหูดหงอนไก่
ผู้ป่วยอาจไม่มีอาการหรือมีอาการต่างๆ ดังนี้
- คลำ หรือเห็นก้อน
- คัน
- เลือดออก
- เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์
เป็นต้น
ผลกระทบจากโรคหูดหงอนไก่
ผู้ป่วยมักกังวลกับการหายของรอยโรค การกลับเป็นซ้ำ และความมั่นใจในการกลับไปมีเพศสัมพันธ์ โดยมีปัญหาในเรื่องความต้องการทางเพศที่ลดลงมากที่สุดซึ่งเป็นผลจากการขาดความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ตรวจพบหูดหงอนไก่ มีความสัมพันธ์กับทารกน้ำหนักแรกเกิดน้อย
นอกจากนี้ยังพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยหูดหงอนไก่ มักจะพบการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ความเสี่ยงสูง (co-infection) ร่วมด้วย และผู้ป่วยหญิงที่มีหูดหงอนไก่ มีผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกผิดปกติระดับ LSIL+ สูงกว่าประชากรทั่วไปถึง 16 เท่า
วิธีรักษาโรคหูดหงอนไก่
การทำลายรอยโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส มักจำเป็นต้องทำซ้ำหลายครั้งและใช้เวลารักษานานหลายสัปดาห์ และโรคหูดหงอนไก่ยังสามารถกลับมาเป็นซ้ำได้บ่อยด้วย แต่แพทย์อาจพิจารณาการรักษาได้ ดังนี้
- ทำลายรอยโรคสามารถทำโดยการใช้สารเคมี ความเย็น (ไนโตรเจนเหลว) จี้ไฟฟ้าหรือการตัดออก
- เพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายเพื่อให้สามารถกำจัดเชื้อไวรัส HPV ได้อย่างรวดเร็ว ทำโดยการรักษาโรคประจำตัวที่เกี่ยวกับระบบภูมิต้านทานของร่างกายให้ดี
- ทายากระตุ้นภูมิต้านทานเฉพาะที่ได้แก่ 5 % imiquimod ระยะเวลาในการหายของโรค อาจยาวนานถึง 16 สัปดาห์
ผลการรักษาจะแตกต่างไปตามความพร้อมและประสบการณ์ของแพทย์ผู้ดูแล
วิธีป้องกันโรคหูดหงอนไก่
- ดูแลคู่เพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์เป็นความเสี่ยงที่สำคัญมรการติดเชื้อ HPV ที่ก่อโรคหูดหงอนไก่ ไม่ว่าคู่เพศสัมพันธ์จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย การใส่ถุงยางอนามัยจะไม่สามารถป้องกันการถ่ายทอดเชื้อได้ทั้งหมด เนื่องจากมีบริเวณที่ติดเชื้ออยู่นอกบริเวณที่สวมถุงยาง ดังนั้น คู่เพศสัมพันธ์มักได้รับเชื้อ HPV ชนิดเดียวกันแล้ว แพทย์จะให้ข้อมูลความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลตนเองอย่างเหมาะสม ให้การรักษาเมื่อปรากฏรอยโรค และแนะนำการฉีดวัคซีน HPV
- ฉีดวัคซีนป้องกันโรคหูดหงอนไก่ โดยทั่วไปการได้รับวัคซีนสำหรับป้องกันการติดเชื้อ HPV ตั้งแต่ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกในทั้งผู้หญิงและผู้ชายจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ HPV และการเกิดรอยโรคตามมา หากมีประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์แล้ว วัคซีน HPV จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยโรค และสำหรับผู้ที่เคยเป็นหูดหงอนไก่มาแล้ว วัคซีน HPV จะสามารถลดโอกาสการเกิดรอยโรคซ้ำได้
ในปัจจุบันมีวัคซีน HPV ที่ป้องกันการเกิดรอยโรคหูดหงอนไก่ 2 ชนิด ได้แก่ วัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ และ วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ ซึ่งปัจจุบันได้รับการรับรองให้ใช้ได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งปากช่องคลอด มะเร็งทวารหนักอีกด้วย
https://mydeedees.com/%e0%b9%82%e0%b8%a3%e0%b8%84%e0%b8%ab%e0%b8%b9%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b9%84%e0%b8%81%e0%b9%88-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%b0/
|