เมนูหลัก
ระบบสมาชิก
Username :
Password :
[ สมัครสมาชิก ] | [ ลืมรหัสผ่าน ]
สมาชิกทั้งหมด 10 คน
สมาชิกที่กำลังออนไลน์ 0 คน
เว็บเกี่ยวข้อง

 


 

  

   เว็บบอร์ด >> >>
ประวัติ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงคนใหม่ของ แมนซิตี้  VIEW : 243    
โดย หยาดฟ้า

UID : ไม่มีข้อมูล
โพสแล้ว : 193
ตอบแล้ว :
เพศ :
ระดับ : 11
Exp : 23%
เข้าระบบ :
ออฟไลน์ :
IP : 27.55.94.xxx

 
เมื่อ : อาทิตย์ ที่ 25 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2566 เวลา 19:02:02   

ประวัติ เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงคนใหม่ของ แมนซิตี้

ประวัติ เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ ดาวยิงคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ว่ากันว่าอีกไม่นานเขาจะก้าวขึ้นไปเป็นกองหน้าเบอร์ 1 ของโลกลูกหนัง

ข้อมูลนักเตะ

  • ชื่อเต็ม : เออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์
  • เกิด : 21 กรกฎาคม 2000 ที่ลีดส์ ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร
  • อายุ : 22 ปี
  • สัญชาติ : นอร์เวย์
  • ส่วนสูง : 194 เซนติเมตร
  • ตำแหน่ง : กองหน้า
  • ต้นสังกัดปัจจุบัน : แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เส้นทางลูกหนังของ เออร์ลิง ฮาแลนด์

เด็กชายเออร์ลิง เบราท์ ฮาแลนด์ หากดูชื่อ นามสกุล ใครที่เป็นแฟนบอลรุ่นเก๋าๆ ก็จะคุ้นๆ หน่อย เพราะนี่คือลูกชายสุดที่รักของ อัลฟ์-อิงเก้ ฮาแลนด์ อดีตกองกลางชื่อดังของน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ลีดส์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นเอง

เจ้าหนูฮาแลนด์ เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ เขาได้เข้าไปเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสรบริน ในลีกนอร์เวย์ และด้วยฝีเท้า พรสวรรค์ และรูปร่างที่สูงใหญ่เกินวัยเดียวกัน ทำให้เจ้าตัวได้เลื่อนไปเล่นรุ่นที่อายุมากกว่าตัวเองอยู่เสมอๆ

ฮาแลนด์ ฝึกซ้อม และลงเล่นอยู่ที่ประมาณหนึ่งปี จนกระทั่งในปี 2016 เจ้าตัวได้โอกาสขยับขึ้นไปเล่นชุดสำรองของสโมสร และเขาก็ต้องทำให้บรรดาทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต้องตะลึง เมื่อเขาจัดการยิงไปถึง 18 ประตู จากการลงเล่นเพียง 14 เกม เท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่สุดยอดอย่างมาก

จากนั้นไม่นาน กุนซือคนปัจจุบันในเวลานั้นของบริน ก็ถูกไล่ออก ทำให้สโมสรแต่งตั้งผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนขึ้นมาทำหน้าที่แทน และกุนซือคนใหม่ที่รู้ซึ้งถึงฝีเท้าของ เจ้าหนูฮาแลนด์ เป็นอย่างดี ได้ทำการดึงตัวเขาจากทีมสำรองขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ แม้ว่าเวลานั้นเขาจะมีอายุเพียง 15 ปี 9 เดือน เท่านั้น และเจ้าตัวก็ได้ลงสนามในทีมชุดใหญ่ครั้งแรก ในวันที่ 12 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 นั่นเอง

 

ในช่วงแรกที่เล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ บริน เจ้าตัวเล่นในตำแหน่งปีก ก่อนที่จะถูกปรับตำแหน่งให้มาเล่นกองหน้า ทว่าฟอร์มการเล่นก็ยังไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างมากนัก ลงเล่นไปทั้งหมด 16 เกมในลีก แต่ไม่สามารถยิงประตูได้เลยแม้ต่ลูกเดียว

 

แต่ด้วยฝีเท้า รูปร่างๆ ความทุ่มเทในการเล่น หรืออะไรก็ตามแต่ ทำให้ฟอร์มการเล่นของ ฮาแลนด์ ไปเข้าตาของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เวลานั้นรับหน้าที่เป็นกุนซือของสโมสรโมลด์ ซึ่งในเวลาต่อมาทาง โมลด์ ก็ได้เข้าไปทาบทามตัว จนกระทั่งวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2017 เจ้าตัวก็ได้ย้ายมาเซ็นสัญญาค้าแข้งกับสโมสรใหม่

เมื่อย้ายมาแล้ว ฮาแลนด์ ก็ใช้เวลาไม่นาน ก็ได้ลงสนามเกมแรก โดยเจ้าตัวได้ลงเล่นในศึกนอร์เวเจียนคัพ เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2017 และเพียงนัดแรกเจ้าตัวก็จัดการยิงประตูแรกได้ทันที เท่านั้นไม่พอ ต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน 2017 เจ้าตัวก็สร้างความฮืออีกครั้ง เมื่อลงเล่นเกมแรกในลีก ในฐานะตัวสำรอง และสามารถยิงประตูได้อีกด้วย และลูกนั้นยังเป็นประตูชัยให้กับทีมอีกต่างหาก จากนั้นเป็นต้นมา เจ้าตัวก็ถูกส่งลงสนามเรื่อยๆ ในฐานะตัวจริงบ้าง ตัวสำรองบ้าง จนกระทั่งจบซีซั่นได้ลงเล่นไปทั้งหมด 20 นัด และยิงไปได้ 4 ประตู

 

ฤดูกาลถัดมาถือเป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของ ฮาแลนด์ เลยก็ว่าได้ เมื่อเขากลายมาเป็ตัวหลักของสโมสร แม้จะมีอายุเพียง 18 ปี และในฤดูกาลนี้เองที่เขาได้สร้างสถิติอย่างมากมาย ทั้งการยิงคนเดียว 4 ประตูภายใน 21 นาทีแรกของเกม, การซัดแฮตทริก ภายในเวลา 11 นาที 2 วินาที หรือแม้กระทั่ง การยิงได้ 4 ประตูภายในเวลา 17 นาที 4 วินาที

ซึ่งเมื่อจบซีซั่นนี้ เขากลายเป็นนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดให้กับ โมลด์ ด้วยจำนวน 16 ประตู จากการลงเล่น 30 นัดจากทุกรายการ และเขายังได้รับตำแหน่งนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของลีก อีกด้วย ซึ่งจากฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงนี้เอง ทำให้ไปเข้าตาของ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก สโมสรยักษ์ใหญ่ลีกออสเตรีย และได้ทำการขอซื้อตัวไปร่วมทีมในเวลาต่อมา

 

ซึ่งจากที่นี่เอง ใครจะไปคิดว่า เจ้าหนูฮาแลนด์ ที่อายุเพียง 19 ปี ในเวลานั้น กำลังจะกลายเป็นนักเตะที่สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้กับทั้ง เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก และ วงการลูกหนังยุโรป

 

การย้ายมาล่าตาข่ายให้กับ ซัลซ์บวร์ก ดาวยิงวัยรุ่นอย่างเขาได้สร้างสถิติมากมาย โดยเมื่อ วันที่ 19 กรกฎาคม 2019 เขายิงแฮตทริกแรกให้กับสโมสรในออสเตรียนคัพ ในนัดที่เอาชนะคู่แข่ง 7–1 ต่อมาในวันที่ 10 สิงหาคม เขาทำแฮตทริกแรกในออสเตรียน บุนเดสลีกา ช่วยให้ทีมเอาชนะคู่แข่ง 5-2 ต่อมาเขาทำแฮตทริกที่ 3 ให้กับสโมสร เมื่อวันที่ 14 กันยายน ช่วยให้ทีมถล่มคู่แข่งไป 7–2

เท่านั้นไม่พอ วันที่ 17 กันยายน เขาลงเล่นครั้งแรกในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 และทำแฮตทริกที่ 4 ให้กับสโมสร ช่วยให้ ซัลซ์บวร์ก เอา ชนะเกงค์ ไปได้อีก

 

ความสุดยอดของเขายังไม่หมดแค่นั้น เมื่อมายิงได้อีกหนึ่งประตูในเกมพบ ลิเวอร์พูล ที่สนามแอนฟิลด์ ทำสถิติเป็นนักเตะคนแรกที่ยิง 4 ประตูได้จากความพยายามยิงเข้ากรอบ 4 ครั้งในศึกแชมเปียนส์ลีก และยังมายิงอีก 2 ประตูใส่ นาโปลี ทำให้ ฮาแลนด์ กลายเป็นผู้เล่นดาวรุ่งคนแรกที่ทำประตูครบทั้งสี่นัดแรกที่ลงเล่นในรายการนี้ และเป็นผู้เล่นคนที่ 4 ทำสถิตินี้ได้หากนับรวมทุกอายุ

ผลงานทีมชาติ

สำหรับทีมชาตินอร์เวย์แล้ว ฮาแลนด์ ก็มาตามสเต็ปของดาวยิงวัยรุ่นทั่วไป เมื่อเล่นมาตั้งแต่ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี, 16 ปี, 17 ปี, 18 ปี, และ 19 ปี ตามลำดับ จนกระทั่ง ปี 2019 เขาก็ถูกเรียกตัวขึ้นมาเล่นในทีมชาติชุดใหญ่ และได้ลงสนามเป็นแมตช์แรก ในวันที่ 5 กันยายน ในเกมที่ นอร์เวย์ เอาชนะ มอลตา ไป 2-0

เกียรติประวัติ

โมลด์

  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี 2018

เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก

  • แชมป์ออสเตรียน บุนเดสลีกา 2018-2019
  • แชมป์ออสเตรียน คัพ 2018–2019
  • นักเตะยอดเยี่ยมออสเตรียน บุนเดสลีกา 2019

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

  • นักเตะยอดเยี่ยมบุนเดสลีกา เดือนมกราคม 2020
  • นักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมบุนเดสลีกา เดือนมกราคม 2020
  • แชมป์เดเอฟเบ โพคาล 2021-22

ทีมชาตินอร์เวย์

  • ดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2019 ในรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี
  • ดาวซัลโวยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก 2020-2021

 

สรุป

ฮาแลนด์ กลายเป็นนักเตะที่ใช้เวลาน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกได้สองครั้ง สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักเตะคนแรกในยุคพรีเมียร์ลีกที่ทำแฮตทริกจากการแข่งขันเกมเหย้า 3 นัดติดต่อกัน ในนัดที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้เปิดบ้านเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 6 – 3

แหล่งที่มา

https://sport.trueid.net

https://mydeedees.com/%e0%b9%81%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%8b%e0%b8%b4-%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%a5%e0%b8%b4%e0%b8%87/





Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5
video puisituhan.com
tutorial puisituhan.com
Based on : Maxsite1.10 Modified to ATOMYMAXSITE 2.5