ฟันยับเดนคุกดับ ตามราวีเมียเก่าอาละวาดผัวใหม่ สุดทนคว้าดาบสู้ รอมอบตัวตำรวจ

ผัวเก่าเพิ่งพ้นคุกไม่นานบุกตามง้ออดีตเมียที่เลิกราไปกว่า 10 ปีถึงบ้านผัวใหม่ อาละวาดไล่ทำร้ายคนในครอบครัว เจอผัวใหม่คว้ามีดดาบฟันร่างยับดับสยอง เจ้าตัวอ้างโดนขู่ฆ่ามาตลอดทั้งที่ช่วยเลี้ยงลูกคนตายตั้งแต่เล็กจนโตยังไม่สำนึกบุญคุณ ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นไว้ก่อน ขณะที่ฝ่ายหญิงหายตัวเงียบ จ่อเรียกมาสอบปากคำหาความจริง

ผัวเก่าบุกบ้านผัวใหม่ เจออีกฝ่ายต้อนรับด้วย มีดดาบ จ้วงฟันร่างยับสิ้นใจคาที่ เปิดเผยเมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 24 เม.ย. ร.ต.ท.พัฒนพล วันชูเชิด รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองสมุทรสาคร รับแจ้งเหตุ ใช้มีดทำร้ายกันมีผู้เสียชีวิตในบ้านเลขที่ 84/7 หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พ.ต.ท.สุรศักดิ์ สิทธิโชคธรรม รอง ผกก.สส.ตำรวจ ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.สมุทรสาคร แพทย์เวร รพ.สมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร

ที่เกิดเหตุพบศพนายมานัส เติมสายทอง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75 หมู่ 8 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร นอนคว่ำหน้าจมเลือด สภาพศพถูกฟัน ตามร่างกายเป็นแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ข้างศพพบมีดดาบยาว 50 ซม. เปื้อนเลือดตกอยู่ 1 เล่ม ห่างไป เล็กน้อยพบนายวงศ์น้อย วรดิษฐ์ อายุ 38 ปี ผู้ก่อเหตุ นั่งรอมอบตัวกับตำรวจ คุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.เมืองสมุทรสาคร แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนภรรยานายวงศ์น้อยที่เป็นเจ้าของบ้าน และเป็น ต้นเหตุให้เกิดเรื่องรักสามเส้ายังหายตัวเงียบ ตำรวจจะเชิญมาให้ปากคำเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวงศ์น้อย มืดมีด ให้การอ้างว่า นายมานัส ผู้ตาย

เป็นสามีเก่าที่เลิกรา กับภรรยาคนปัจจุบันของตนไปนานแล้ว และเพิ่งพ้น โทษออกมาจากเรือนจำ ก่อนเกิดเหตุได้บุกเข้ามาที่ บ้านหลังนี้ที่ตนพักอาศัยอยู่กับภรรยาเพื่อจะมาทำร้าย คนในครอบครัว ก่อนหน้านี้นายมานัส เคยโทรศัพท์ขู่ฆ่ามาโดยตลอด ตนพยายามเลี่ยงไม่อยากจะเจอ เพราะช่วงที่นายมานัสติดคุก ตนอยู่กินกับภรรยาของ นายมานัสมากว่า 10 ปีแล้ว และยังช่วยเลี้ยงลูกของนายมานัสจนโตด้วย แต่กลับไม่สำนึกบุญคุณ เมื่อนายมานัสบุกมาอาละวาดไล่ทำร้ายคนในบ้านเพราะความ หึงหวงอยากง้อเมียเก่า ทำให้ตนต้องปกป้องครอบครัว ใช้มีดดาบฟันใส่ร่างนายมานัสจนเสียชีวิตดังกล่าว

ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th

ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

ติดตามข่าวสารได้ที่ have-a-look.net