นับว่าเป็นผลจากการแข่งขันที่ไม่น่าฉงนใจมากแค่ไหนนักสำหรับ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เมื่อวันอังคารที่ 2 เดือนพฤษภาคม ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ภายหลังที่ อาร์เซน่อล เปิดรัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เอาชนะ เชลซี ไปได้ 3-1 เพราะเหตุว่าแม้ "ไอ้ปืนใหญ่" จะสะดุดมาหลายครั้งต่อๆกันก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แม้กระนั้นฟอร์มโดยรวมของพวกเขาก็ยังเหนือกว่า "สิงห์บลูส์" พอสมควร
แน่ๆว่าผลของการแข่งขันที่ออกมามันมีผลถึงตารางคะแนนในระดับหนึ่ง แต่ว่าในเวลาเดียวกันมันก็มีเกร็ดบางสิ่งบางอย่างที่น่าดึงดูดจากเกมนัดหมายนี้ด้วยไม่ว่าจะอีกทั้งของฝั่ง อาร์เซน่อล หรือ เชลซี ทดลองไปไล่มองกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
- การออกสตาร์ตสุดเลวทราม
คนไม่ใช่น้อยคาดกันตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่า เชลซี จะพบงานยากในเกมนี้ แม้กระนั้นก็คงจะมีเพียงแต่ไม่กี่ผู้ที่จะมีความคิดว่าพวกเขาจะตามหลังถึง 3 ลูกตั้งแต่ข้างในตอน 34 นาทีแรก โดยที่ อาร์เซน่อล ได้ประตูจาก มาร์ติน โอเดการ์ด ในนาทีที่ 18 กับ 31 รวมทั้ง กาเบรียล เชซุส ในนาทีที่ 34 ซึ่งมันก็ทำให้ เชลซี พบงานยากระดับเข็นครกขึ้นเขาสำหรับเพื่อการกลับมาสู่เกม และก็ในที่สุดก็ทำไม่เสร็จ
การเสียถึง 3 ลูกเร็วขนาดนั้นทำให้นี่นับว่าเป็นคราวแรกนับจากก.ย. ปี 2020 ที่ เชลซี กลายเป็นข้างตามหลังถึง 3 ประตูเร็วที่สุดในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก โดยคราวนั้นพวกเขาตามหลัง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 0-3 ตั้งแต่ตอน 27 นาทีแรก แม้กระนั้นท้ายที่สุดกลับมาเสมอ 3-3 ได้
- เชซุส สร้างสถิติ
ภายหลังยิงในลีกมิได้มา 2 ครั้งต่อๆกัน เชซุส ก็กลับมาทำแต้มได้อีกที โดยนี่นับว่าเป็นเกม พรีเมียร์ลีก นัดหมายที่ 55 ที่เขามีชื่อเป็นผู้ที่ทำประตู และก็ทำให้เขาเป็นนักฟุตบอลที่เพียงพอทำแต้มได้แล้วท้ายที่สุดตนเองไม่ต้องเป็นข้างแพ้ในเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ได้มากที่สุดแบบคนเดียวๆที่ปริมาณ 55 เกม แบ่งเป็นการชนะ 50 คราวกับเสมอ 5 นัดหมาย โดยก่อนหน้าที่ผ่านมาเขาครอบครองสถิติร่วมกับ เจมส์ ไม่ลเนอร์ ตัวรุก หงส์แดง ที่ปริมาณ 54 เกม
นอกเหนือจากนี้ ประตูของ เชซุส ยังเป็นเหตุให้ฤดู 2022-23 นับว่าเป็นฤดูกาลที่ พรีเมียร์ลีก มีประตูมาจากฝีเท้าของนักฟุตบอลชาวบราสิมันและลีกสูงที่สุดแบบผู้เดียวๆด้วย เพราะเหตุว่ามันนับว่าเป็นประตูที่ 82 เข้าไปแล้ว โดยสถิติเดิมเป็นของฤดู 2021-22 ที่ลำแข้งเลือดแซมบ้าทั้งยังลีกทำแต้มรวมกันได้ 81 ประตู
- แผนภูมิที่ยังตรงลงเหวของ เชลซี
ฤดูนี้ เชลซี เล่นได้ไม่สมกับการเป็นกลุ่มใหญ่จนถึงทำให้พวกเขาแพ้เป็นนัดหมายที่ 20 จากการลเงล่นในทุกรายการเข้าไปแล้ว ซึ่งนี่นับว่าเป็นทีแรกที่พวกเขาแพ้มากมายขนาดนั้นข้างในฤดูเดียวถ้าเกิดนับจากสมัยที่ลีกสูงสุดของอังกฤษแปลงมาใช้ชื่อ พรีเมียร์ลีก
ช่วงเวลาเดียวกัน ผลงานจากนัดหมายปัจจุบันก็ทำให้พอๆกับว่านับตั้งแต่ที่ปลด โธมัส ทูเคิ่ล พ้นจากการเป็นกุนซือไปแล้วนั้น เชลซี ก็แพ้ใน พรีเมียร์ลีก เป็นนัดหมายที่ 12 เข้าไปแล้วจากทั้งปวง 27 เกม ซึ่งซึ่งก็ถือได้ว่ามากยิ่งกว่าตลอดตอนช่วงเวลาที่ ทูเคิ่ล ยังอยู่ในตำแหน่งด้วย ภายหลังผู้จัดการทีมชาวเยอรมันเคยพาทีมแพ้ในลีก 11 เกมจาก 63 นัดหมาย
- ราชาที่เมืองหลวง
เกมนัดหมายปัจจุบันนับว่าเป็น ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ นัดหมายท้ายที่สุดของ อาร์เซน่อล ประจำฤดู 2022-23 ซึ่งฤดูกาลนี้พวกเขาส่งผลงานที่ยอดเยี่ยมสำหรับในการพบกับกลุ่มจากเมืองหลวงร่วมกัน เนื่องจากว่าพวกเขาไม่แพ้ให้กลุ่มไหนเลยจากทั้งผอง 12 เกม แบ่งเป็นการชนะ 10 นัดหมายกับเสมอ 2 ครั้ง
โดยเหตุนี้ กลุ่มของที่ปรึกษา ไม่เกล อาร์เตต้า เลยนับว่าเป็นกลุ่มแรกนับจากฤดู 2004-05 ที่ไม่แพ้เกม ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ฉบับ พรีเมียร์ลีก แม้กระทั้งนัดหมายเดียวด้านในฤดูกาลเดียวกัน แถมพวกเขายังเป็นกลุ่มแรกที่เก็บชัยในเกมอย่างงั้นได้ถึงหลัก 10 นัดหมายอีกต่างหาก
ยิ่งกว่านั้น อาร์เซน่อล ก็เปลี่ยนเป็นกลุ่มจากกรุงลอนดอนกลุ่มแรกที่ชนะในเกม พรีเมียร์ลีก นัดหมายลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ เป็นปริมาณ 150 เกมด้วย
- แลมพาร์ด อาการหนัก
ยังไม่สามารถที่จะกู้เกียรติศักดิ์ของตนในฐานะผู้จัดการทีมได้สำหรับ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ภายหลังพาทีมแพ้ครบทั้งยัง 6 เกมจากทุกรายการตั้งแต่แมื่อที่ได้รับการแต่งให้จับบังเ***ยนแบบขัดตาทัพ รวมทั้งถ้าหากนับย้อนไปถึงขณะที่ยังคุม เอฟเวอร์ตัน ด้วยล่ะก็ มันก็แสดงว่าเวลานี้ แลมพาร์ด แพ้มา 10 เกมต่อเนื่องกันในทุกรายการแล้ว
ผลงานที่ชั่วร้ายอย่างนั้นทำให้ แลมพาร์ด นับว่าเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลผู้ดีอังกฤษคนแรกนับจากปี 1988 ที่รับงานกับกลุ่มในลีกสูงสุดแม้กระนั้นมีตอนที่พาทีมแพ้ 10 เกมรวดในทุกรายการ โดยรุ่นพี่ของเขาเวลานี้เป็น อาร์เธอร์ ค็อกซ์ ที่ทำผลงานได้ไม่ดีกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Betufa
|