เครื่องดื่มช็อกโกแลต อาจเป็นเมนูสุดโปรดของหลายๆ คน เพราะเป็นเมนุเครื่องดื่มที่สามารถทานได้ทั้งแบบร้อน และเย็น รวมไปถึงแบบปั่น เราเชื่อว่าช็อกโกแลต เป็นของหวานที่ใครๆ ก็ต้องหลงรักอย่างแน่นอน ซึ่งวันนี้หากคุณกำลังมองหาเครื่องดื่มที่โดนใจอยู่ล่ะก็ เราขอแนะนำนี่เลย 3 สูตรเด็ดเครื่องดื่มจากช็อกโกแลต ที่ดื่มทีไรก็สัมผัสได้ถึงความอร่อย และช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขสุดๆ ว่าแต่ เครื่องดื่มช็อกโกแลต ทั้ง 3 สูตรนี้ จะมีสูตรอะไรบ้างและมีวิธีการทำอย่างไร มาดูกันเลยดีกว่า
แจก 3 สูตรเครื่องดื่มช็อกโกแลต และมีวิธีการทำอย่างไร
1.ช็อกโก้บานาน่าเฟรบเป้
ช็อกโกแลตและกล้วย ถือเป็นของหวานที่เข้ากันมาก ทั้งมีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมสุดๆ สูตรนี้ เราจึงจับเอาช็อกโกแลตและกล้วยมาผสมผสานรสชาติเข้าด้วยกัน จนได้ชื่อว่า เครื่องดื่มช็อกโก้บานาน่าเฟรบเป้นั่นเอง ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่า รสชาติที่ออกมานี่ อร่อยเข้ากันดีสุดๆ แบบที่หากใครได้ลองดื่มดูแล้ว จะต้องติดใจจนแทบวางแก้วไม่ลงเลยล่ะ ซึ่งก็มีวิธีการทำ ดังนี้
ส่วนผสม
- น้ำเชื่อมกลิ่นช็อกโกแลต 90 มิลลิลิตร
- นมสด 90 มิลลิลิตร
- วิปปิ้งครีมสำเร็จรูป
- กล้วยหอมฝานชิ้น สำหรับตกแต่ง
- น้ำเชื่อมกลิ่นกล้วย 15 มิลลิลิตร
- นมข้นหวาน 15 มิลลิลิตร
- น้ำแข็ง
วิธีทำ
สำหรับวิธีการทำเครื่องดื่มช็อกโกแลตบานาน่าเฟรบเป้นั้น ก็ไม่ยากเลย ให้นำส่วนผสมทั้งหมดที่เตรียมไว้ใส่ลงในเครื่องปั่น ยกเว้นวิปปิ้งครีมและกล้วยหอมฝานชิ้น เพราะจะเอาไว้ใช้ในขั้นตอนสุดท้าย คือการแต่งหน้าเครื่องดื่มให้ดูน่าดื่มยิ่งขึ้นนั่นเอง โดยเมื่อนำส่วนผสมใส่ในเครื่องปั่นแล้ว ก็ให้ปั่นให้ละเอียดจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นเทใส่แก้ว แล้วแต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีมกับกล้วยหอมฝานชิ้นได้เลย น่าดื่มไม่น้อยเลยใช่ไหมล่ะ
2.ช็อกโกแลตร้อนเนื้อครีม
สำหรับ เครื่องดื่มช็อกโกแลต แก้วนี้ เป็นเครื่องดื่มร้อนๆ ที่มีการนำไปตุ๋นจนได้เนื้อครีมข้นๆ และมีรสชาติอร่อยกลมกล่อม น่าดื่มสุดๆ แถมตกแต่งด้วยวิปครีมและผงโกโก้ จนดูน่าดื่มสุดๆ อีกด้วย ซึ่งก็มีวิธีการทำ ดังนี้
ส่วนผสม
- น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วย
- นมสด 3 ½ ถ้วย
- กลิ่นวานิลลา ¾ ช้อนชา
- ผงโกโก้ 1/3 ถ้วย
- น้ำร้อน 1/3 ถ้วย
- เกลือป่นเล็กน้อย
- ครีมผสมนม ½ ถ้วย
- วิปปิ้งครีม
วิธีทำ
1.นำน้ำตาลทราย ผงโกโก้และเกลือป่น ใส่ลงในหม้อ แล้วนำขึ้นตั้งไฟ โดยใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อคนให้ส่วนผสมค่อยๆ ละลายอย่างช้าๆ
2.เติมน้ำร้อนลงไป แล้วคนต่อไปเรื่อยๆ เมื่อส่วนผสมเดือด ให้เบาไฟลงเล็กน้อย แล้วคนต่อไปอีกประมาณ 2 นาที
3.จากนั้นใส่นมข้นจืดลงไป แล้วคนเรื่อยๆ จนส่วนผสมร้อนได้ที่ก็ยกลงจากเตา
4. เติมกลิ่นวานิลลาลงไปในส่วนผสมที่ได้ แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นเทใส่แก้วที่เตรียมไว้ได้เลย
5.รอจนส่วนผสมเย็นลงเล็กน้อย ตกแต่งด้วยวิปปิ้งครีมและโรยผงโกโก้ลงไป ก็จะได้เครื่องดื่มช็อกโกแลตสุดอร่อยที่พร้อมเสิร์ฟได้ทันที
3.ช็อกโกแลตมิลค์เชค
อีกเมนูเครื่องดื่มช็อกโกแลต ที่อยากจะให้คุณได้ลองดื่มดูสักครั้ง ซึ่งก็เป็นเครื่องดื่มช็อกโกแลตที่เข้มข้นสุดๆ แถมมีรสชาติหวานมันจนใครๆ ก็ต้องติดใจ ว่าแล้วมาดูวิธีการทำเลยดีกว่า
ส่วนผสม
- นมสด 100% 2/3 ถ้วย
- ไอศกรีมรสช็อกโกแลต 16 ออนซ์
- วิปปิ้งครีม
- ช็อกโกแลตไซรัป 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำไอศกรีมรสช็อกโกแลต นมสดและช็อกโกแลตไซรัป ใส่ลงไปในโถปั่น แล้วปั่นรวมกันจนเป็นเนื้อเดียว จะได้ส่วนผสมที่เข้มข้นและน่าทานสุดๆ
2.บีบช็อกโกแลตไซรัปใส่ลงในแก้ว เพื่อตกแต่งแก้วให้ดูน่าทานยิ่งขึ้น
3.นำส่วนผสมที่ปั่นจนละเอียดในข้อ 1 เทใส่ลงในแก้วจนหมด จากนั้นแต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีมและช็อกโกแลตไซรัป ก็จะได้ช็อกโกแลตมิลค์เชคที่น่าดื่มและมีกลิ่นหอมเย้ายวนเป็นอย่างมาก
ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) คืออะไร?
ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) คือ ช็อกโกแลตที่มีส่วนผสมของผงโกโก้สูงกว่าช็อกโกแลตทั่วไป โดยปกติดาร์กช็อกโกแลตที่วางขายตามบ้านเรา จะมีเปอร์เซ็นต์ของผงโกโก้ ดังนี้
ผงโกโก้ 50%: รสชาติยังพอได้อยู่ค่ะ กินเข้าไปแล้วยังมีรสหวานติดมานิดหน่อย
ผงโกโก้ 70%: มีรสชาติขมขึ้นมานิดหน่อย แต่ถ้าใครที่ดื่มกาแฟดำ 100% เหมือนผม ปริมาณโกโก้เท่านี้ ถือว่าสบายมากค่ะ
ผงโกโก้ 80%: ขอสารภาพว่า เริ่มรู้สึกเหมือนเคี้ยวยาขม เพราะรสชาติขมปี๋เลยค่ะ แนะนำให้ผสมกับกาแฟดื่มดีกว่า
ผงโกโก้ 90%: มีรสชาติขมมาก ขมจนกลืนไม่ลง ขมจนต้องคายทิ้ง ขมจนรสเปรี้ยวติดปากติดคอ ดื่มน้ำตามเป็นชั่วโมงยังไม่หายขม (ฮ่วย!)
ดาร์กช็อกโกแลตผลิตมาจากเมล็ดโกโก้ (Cocoa Seed) ซึ่งเป็นผลผลิตจากพืชที่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เยอะที่สุดในโลก
จุดเด่นของดาร์กช็อกโกแลต คือ มีน้ำตาลน้อยกว่าช็อกโกแลตทั่วไป เช่น Milk Chocolate ในช่วงลดน้ำหนักเราจะต้องควบคุมน้ำตาลและพลังงานแคลอรี่ไม่ให้มากกว่าที่ร่างกายเผาผลาญ
แต่ปัญหาคือ สมองเราก็ยังอยากกินน้ำตาลอยู่ดี ดังนั้นการกินดาร์กช็อกโกแลตแทนของหวาน เช่น โดนัท หรือ อาหารฟาสต์ฟู้ด จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด จะได้ไม่ไปเผลอกินของอย่างอื่นที่มีแต่น้ำตาลและแคลอรี่
ดาร์กช็อกโกแลต มีข้อด้อยตรงที่มีรสชาติขมกว่าช็อกโกแลตทั่วไป แต่จะว่าไปแล้วของที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ส่วนมากก็อาจจะมีรสชาติไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ เราต้องมาดัดแปลงอีกทีเพื่อให้กินง่ายขึ้น
เรามาดูกันต่อเลยครับว่า ถ้าเราเปลี่ยนตัวเองมาเป็น “สายขม” เราจะได้ประโยชน์อะไรจากดาร์กช็อกโกแลตบ้าง (คือ…มันคุ้มหรือเปล่า?)
สารอาหารที่พบใน ดาร์กช็อกโกแลต
ก่อนอื่นเลย ถ้าอยากได้ประโยชน์จากการกินช็อกโกแลต เราต้องเลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสมของผงโกโก้อย่างน้อย 70% ขึ้นไป เพราะว่าถ้าช็อกโกแลตที่มีผงโกโก้น้อยกว่านี้ จะมีน้ำตาลและพลังงานแคลอรี่ที่สูงเกินไป
สารอาหารในดาร์กช็อกโกแลต 70% ในปริมาณ 100 กรัม
- พลังงาน: 600 แคลอรี่
- เส้นใยอาหาร : 11 กรัม
- ธาตุเหล็ก (Irons): 67% (ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน: RDI)
- แมกนีเซียม (Magnesium): 58% (ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน: RDI)
- ธาตุทองแดง (Copper): 89% (ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน: RDI)
- แมงกานีส (Manganese): 98% (ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน: RDI)
- แร่ธาตุอื่นๆ: ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ธาตุสังกะสี และเซเลเนียม
อย่างที่เราเห็นค่ะ ถ้าวันหนึ่งเรากินดาร์กช็อกโกแลตไป 100 กรัม เราจะได้รับพลังงานมากถึง 600 แคลอรี่ และถึงจะเป็นดาร์กช็อกโกแลตมันก็ยังมีน้ำตาลอยู่เหมือนกัน ดังนั้นเราต้องชั่งและบริหารงบประมาณแคลอรี่ จดบันทึกทุกอย่างที่กินเพื่อที่จะไม่กินเยอะเกินไป
ดาร์กช็อกโกแลตก็ยังมีคาเฟอีน (Caffeine) และสารทีโอโบรมีน (Theobromine) อยู่บ้าง แต่ปริมาณถือว่าน้อยมาก ถ้าเราอยากจะกินดาร์กช็อกโกแลตตอนเย็นก่อนนอน ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะนอนไม่หลับหรือใจสั่นค่ะ
5 ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง (HIGH IN ANTIOXIDANTS)
นักวิทยาศาสตร์พบว่า เมล็ดโกโก้ (ดิบ) คือ คือหนึ่งในอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระมากที่สุดในโลก!
ทุกวันนี้เราจะเลี่ยงที่จะเจอมลพิษข้างนอกไม่ได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นควันรถ ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ แสงแดด หรือแม้แต่อาหารที่เรากิน ปัจจัยเหล่านี้คือสาเหตุที่ทำให้ร่างกายมี อนุมูลอิสระ (Free Radicals) มากขึ้น
ดังนั้น สิ่งที่เราป้องกันได้คือ เราต้องได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหาร เช่น ดาร์กช็อกโกแลต ในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการ
ประโยชน์ของสารต้านอนุมูลอิสระไม่ใช่แค่ช่วยชะลอวัยเท่านั้นนะครับ การที่เรามีอนุมูลอิสระน้อยลง ความเสี่ยงโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดแข็งตัว ก็จะลดลงไปด้วย
2. ปกป้องผิวจากแสงแดด (PROTECT SKIN FROM SUN RAY)
งานวิจัยพบว่า สารฟลาโวนอยด์จากดาร์กช็อกโกแลต มีส่วนช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด เพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปยังเซลล์ผิวหนัง และช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย
แน่นอนว่าคงไม่มีใครบ้าไปยืนกลางแดดให้ผิวไหม้แน่นอน แต่ถ้าสาวๆคนไหนกำลังจะไปเที่ยวทะเล หรือต้องเจอแดดบ่อยๆ ควรหาซื้อดาร์กช็อกโกแลตมากินล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับผิวด้วยนะค่ะ
3. ช่วยผ่อนคลายสมอง ลดความเครีย (REDUCE STRESS)
นักวิยาศาสตร์พบว่า กลุ่มผู้เข้าทดลองที่กินดาร์กช็อกโกแลตติดต่อกัน 5 วัน มีการไหลเวียนโลหิตไปยังสมองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า สมองเราได้ผ่อนคลาย และได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการทำงานของสมองนั่นเองค่ะ
4. ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ (DECREASE HEART HEALTH RISK)
หนึ่งในสาเหตุหลักของโรคหัวใจ คือ คอเลสเตอรอลเลว (Low Density Lipoprotein: LDL) เพราะคอเลสเตอรอลชนิดนี้จะเข้าไปขวางการไหลเวียนโลหิต ทำให้ความดันโลหิตสูง และเป็นโรคหัวใจในที่สุด
งานวิจัยพบว่า ผงโกโก้จากดาร์กช็อกโกแลต สามารถยับยั้งการรวมตัวกันของ คอเลสเตอรอลเลว และ อนุมูลอิสระได้ (LDL Oxidation) และอย่างที่ผมเกริ่นไป ดาร์กช็อกโกแลตมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งนอกจากจะกำกัดอนุมูลอิสระ และคอเลสเตอรอลเลวแล้ว มันยังสามารถเพิ่มจำนวน คอเลสเตอรอลดี (High Density Lipoprotein) ให้มีมากขึ้นด้วย
นักวิจัยพบอีกว่า กลุ่มคนที่กินดาร์กช็อกโกแลต 1-2 ครั้ง ต่อสัปดาห์ มีแผ่นพลาค (Calcified Plaque) ที่ทำให้เส้นเลือดแข็งตัว น้อยลงถึง 32%
ดาร์กช็อกโกแลต ยังช่วยลด ภาวะดื้อต่อฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin Resistance) หรือ ภาวะที่เซลล์ในร่างกายไม่สามารถรับสารอาหาร (น้ำตาลกลูโคส) ที่อินซูลินลำเลียงไปให้นั่นเอง และภาวะนี้ก็ยังเป็นหนึ่งในต้นเหตุของโรคหัวใจด้วย
5. เพิ่มการไหลเวียนโลหิต (IMPROVE BLOOD CIRCULATION)
นี่คือเหตุผลที่ทำไหมหลายคนถึงชอบกินดาร์กช็อกโกแลตมากที่สุด คือ คนออกกำลังกายอย่างผมจะต้องการให้ร่างกายมีการไหลเวียนโลหิตที่ดีที่สุด
ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะ กับการทำ เครื่องดื่มช็อกโกแลต จาก 3 สูตร ที่เรามาพร้อมเสริฟกับความอร่อยสุดๆ แถมมีรสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอมหวานน่าเย้ายวนและน่าตาน่าทานสุดๆ อีกด้วย ใครที่พอมีเวลาว่างและอยากจะทำเครื่องดื่มด้วยตัวเองดูสักครั้ง ก็ลองทำเครื่องดื่มช็อกโกแลตทั้งสามสูตรนี้กันดูนะคะ รับรองว่าทำแล้วคุณจะต้องติดใจแน่นอน แถมยังสามารถเติมแต่งรสชาติได้ตามต้องการอีกด้วย อยากรู้ว่าจะอร่อยแค่ไหน ก็ต้องลองลงมือเข้าครัว ทำเครื่องดื่มอร่อยๆ เหล่านี้กันแล้วล่ะ
https://doodido.com
|